การ์ทเนอร์ เผยบทคาดการณ์มูลค่าใช้จ่ายไอทีไทย ปี 2567 อาจทะลุ 1 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรก ขณะที่ทั่วโลกเติบโตกว่า 6.8% คาดใช้จ่ายด้าน IT Services สูงสุด
การ์ทเนอร์ อิงค์ (Gartner, Inc.) บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำของโลก คาดการณ์ว่า ในปี 2567 กลุ่มผู้ให้บริการด้าน ‘ไอที’ จะมียอดใช้จ่ายพุ่งแซงหน้ากลุ่มผู้ให้บริการด้านการสื่อสารเป็นครั้งแรก โดยจะเติบโตเพิ่ม 6.8% จากปี 2566 คิดเป็นมูลค่ารวม 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 178 ล้านล้านบาท)
ลดลงจากไตรมาส 4 ปี 2566 ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโต 8% แม้ปัญญาประดิษฐ์ประเภท Generative AI (GenAI) จะได้รับความนิยมล้นหลามในปี 2566 แต่ในระยะสั้น ยังไม่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดการใช้จ่ายไอทีมากนัก
สำหรับประเทศไทย การ์ทเนอร์คาดว่า ในปี 2567 มูลค่าการใช้จ่ายไอที จะสูงทะลุ 1 ล้านล้านบาท เป็นครั้งแรก เพิ่มขึ้น 5.8% จากปี 2566 โดยกลุ่ม ‘ซอฟต์แวร์’ จะมีมูลค่าการใช้จ่ายเติบโตสูงสุด และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15.9%
จอห์น-เดวิด เลิฟล็อค รองประธานฝ่ายวิจัยบริษัทการ์ทเนอร์ กล่าวว่า แม้ GenAI จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่จะไม่ส่งผลถึงการใช้จ่ายไอทีอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับเทคโนโลยี IoT หรือ Blockchain รวมถึงเทรนด์สำคัญอื่น ๆ
และในปี 2567 จะเป็นปีที่องค์กรต่าง ๆ หันมาลงทุนเพื่อวางแผนสำหรับการใช้ GenAI อย่างจริงจัง แต่ปริมาณการใช้จ่ายด้านไอทีจะยังเป็นการขับเคลื่อนผ่านปัจจัยเดิม เช่น ความสามารถด้านการทำกำไร และปัจจัยด้านแรงงาน
นอกจากนี้ ยังเผยตัวเลขคาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกด้วย โดยการ์ทเนอร์แบ่งมูลค่าการใช้จ่ายต่าง ๆ ออกเป็น 7 ประเภท ซึ่งประเภทที่คาดว่าจะมีมูลค่าการเติบโตสูงสุดในปีนี้ คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ ที่คาดว่าจะเติบโต 12.7% มีมูลค่าใช้จ่าย 1,029,421 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 36.8 ล้านบาท
Gartner
ตารางคาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายไอทีทั่วโลก
ส่วนกลุ่มที่มีมูลค่าการใช้จ่ายสูงสุดคือ กลุ่ม IT Services ที่คาดว่าจะมีมูลค่าใช้จ่ายกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 53.67 ล้านล้านบาท มีมูลค่าการเติบโตเพิ่มขึ้น 8.7% ซึ่งการ์ทเนอร์คาดว่า มาจากการที่องค์กรมุ่งลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กร และโปรเจกต์ต่าง ๆ
ตามมาด้วยกลุ่ม Communication Services ที่คาดว่าจะมียอดใช้จ่าย 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 53.6 ล้านล้านบาท ตามมาด้วยการใช้จ่ายกลุ่ม Software ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 36.78 ล้านล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 12.7% ต่อด้วยกลุ่ม Devices และ Data Center Systems ตามลำดับ
